วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

สรรพคุณทางยาของผักหวานบ้าน



ผักหวานบ้าน ถือเป็นพืชผักอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก และคนส่วนใหญ่น่าจะชอบเพราะเป็นผักที่มีรสชาติหวานเย็น กรอบอร่อย และไม่มีรสชาติจัดจ้านเหมือนผักทั่วไปที่มักมีรสขม โดยเรานิยมนำใบและยอดอ่อนมากิน ซึ่งสามารถดัดแปลงเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น เป็นผักลวกจิ้ม หรือใช้เป็นส่วนผสมในกับข้าวประเภทต่าง ๆ ทั้งต้ม ผัด นึ่ง และแกง นอกจากนี้ยังมี สรรพคุณ ทางยาที่ดีต่อสุขภาพมากมาย

🌿ผักหวานบ้าน คืออะไร? สรรพคุณ? 🌿
ในส่วนของยอดและใบอ่อนของผักหวานบ้านนั้น เป็นส่วนที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรตีนที่มีมากกว่าผักชนิดอื่น มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งมีส่วนในการทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นดีขึ้น และลดโอกาสที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนด้วย หรือถ้าสามารถกินผักหวานบ้านแบบสดๆ ได้ก็จะดี เนื่องจากมีวิตามินซีสูงซึ่งมีคุณสมบัติทำให้สุขภาพแข็งแรงแล้วยังช่วยไม่ให้เซลล์ภายในร่างกายโดนทำลายจากมลพิษภายนอก ป้องกันอันตรายจากแสงแดดที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดมะเร็งหรือแก่ก่อนวัย ส่งผลให้ผิวพรรณสดใส และมีเบต้าแคโรทีนซึ่งเป็นแอนติออกซิแดนต์อีกตัวหนึ่งที่เมื่อถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอจะช่วยบำรุงสายตา และเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ


🌿"ผักหวานบ้าน" สรรพคุณทางยา 🌿
👉ราก สามารถนำมาต้มน้ำใช้ดื่มเพื่อลดอาการไข้ แก้อาการไข้จากการกินของแสลงที่เป็นพิษ บรรเทาอาการตัวร้อน แก้อาการไอ และรากสดเมื่อนำมาฝนกับน้ำจะช่วยแก้โรคคางทูมได้ดี
👉ใบ นำมาปรุงเป็นยาเขียวเพื่อช่วยแก้ไข้ ระบายความร้อนในร่างกายได้เช่นกัน ส่วนน้ำคั้นจากใบก็ใช้เป็นยาทาแก้แผลในปากได้ด้วย
👉ต้นและใบ ใช้เป็นยาบำรุงและช่วยเพิ่มน้ำนมให้แก่หญิงหลังคลอดบุตร ทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว และน้ำยางจากต้นและใบยังนำมาใช้หยอดตา แก้ตาอักเสบ
👉รากและใบ แก้ฝีได้โดยการนำมาตำแล้วใช้พอก หรือจะใช้แก้โรคหัด ลดอาการบวม และช่วยแก้อาการปัสสาวะออกน้อย

แกงผักหวาน
ทุกคนคงได้อ่านสรรพคุณของผักหวานกันมาแล้วนะค่ะ สำหรับใครที่ไม่มีเวลาว่างทำกับข้าวทานเอง หรือหาร้านที่บรรยากาศถูกใจยังเจอ แนะนำเลยค่ะ “แกงผักหวานใส่ไข่มดแดง” เมนูแนะนำของร้านอาหารอีสาน The Home Ubon อาหารอร่อย บรรยากาศดี บริการน่าประทับใจ ใครที่มาเที่ยวแถวอุบล ลองแวะมาลิ้มลองรสชาติได้นะค่ะ

วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561

ประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์

ประโยชน์

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า Cashew nut และยังมีชื่อเรียกอีกหลาก หลายในภาษาไทย ตามแต่ลักษณะภูมิภาคที่แตกต่างกันออกไป โดยส่วนมากแล้วมะม่วงหิมพานต์จะมีประโยชน์ที่ทุกคน คาดไม่ถึง แล้วเราจะพบมะม่วงหิมพานต์ในแถบภาคใต้ ลักษณะของมะม่วงหิมพานต์ จะมีลักษณะคล้ายลูกชมพู่
ประโยชน์ 1

รสชาติของตัวผลจะให้รสเปรี้ยว ฉ่ำน้ำ สามารถที่จะนำเอารับประทานได้ทั้งผลดิบสุก โดยผลสุกจะมีแดงหรือเหลือง ส่วนของผลจะมีเมล็ดยื่นออกมา เป็นส่วนที่เรานิยมนำเอามารับประทาน และนำมาประยุกต์ในการทำอาหารได้หลากหลายเมนู
✏เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เป็นอาหารประเภทถั่ว
ที่เรานิยมรับประทานกันอย่างหลากหลาย เป็นหนึ่งในถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เมื่อเทียบกับถั่วประเภทอื่นๆ แล้ว ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ประมาณ 1 กำมือ (28 กรัม) หรือประมาณ 16-20 เมล็ด จะมีพลังงานทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 160 แคลอรี่ มีโปรตีน 4 กรัม ปริมาณไขมันทั้งหมด 13 กรัม แบ่งออกเป็นไขมันชนิดอิ่มตัว 3 กรัม และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน 10 กรัม แสดงให้เห็นว่า ในเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้น มีส่วนประกอบหลักเป็นไขมัน ประเภทไขมันดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
✏นอกจากนั้นแล้ว ยังประกอบไปด้วยสารอาหาร
ทั้งคาร์โบไฮเดรต แคลเซียม วิตามิน โปรตีน แมงกานีส โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี โซเดียม และอื่นๆ ในเม็ดมะมวงหิมพานต์ ยังมีปริมาณเส้นใยสูง เมื่อเทียบกับถั่วประเภทอื่นๆ อีกด้วย
✏ประโยชน์ของเม็ดมะม่วงหิมพานต์
ได้รับการยอมรับในเรื่องของการช่วยป้องกันโรค ช่วยลดปริมาณคลอเลสเตอรอลในเลือด ชนิด LDL ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน ปัญหาเลนส์ตาเสื่อม ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี โรคความดัน และโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
✏การรับประทานเม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นประจำ
ยังช่วยบำรุงผิวพรรณ เนื่องจากปริมาณไขมันที่สูงในตัวของมัน ส่งผลให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น ช่วยบำรุงเส้นผมกากใยที่มีในเมล็ด ยังช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น กระตุ้นระบบขับถ่ายสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องผูก และแมกนีเซียมที่พบในเมล็ด ยังช่วยบำรุงเหงือกและฟันให้แข็งแรง
✏เม็ดมะม่วงหิมพานต์ แม้จะจัดอยู่ในประเภทของถั่วที่มีไขมันมาก
แต่ส่วนใหญ่แล้ว ปริมาณไขมันที่พบ เป็นประเภทไขมันชนิดไม่อิ่มตัวถึง 75% การรับประทานไขมันที่ได้จากถั่ว จะเข้าไปทำหน้าที่ ที่ตรงกันข้ามกับไขมันชนิดอิ่มตัว และเมล็ดยังช่วยให้เราอิ่มท้องได้นานขึ้น ลดความอยากอาหาร เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วน

ประโยชน์ 2
✏ แต่ข้อควรระวังในการรับประทาน
ก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอดี เพราะไขมันแม้จะเป็นไขมันชนิดดีแต่หากเกินความต้องการของร่างกาย ก็อาจจะส่งผลให้เกิดการสะสมได้โดยเฉพาะผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก หรือลดความอ้วนปริมาณพลังงานที่สูงของเม็ดมะม่วงหิมพานต์ อาจจะทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผลหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินควร หรือควรรับประทานเพียงวันละ 10-15 เม็ดต่อวันเท่านั้น
ประโยชน์3
จากที่ทุกคนได้อ่านประโยชน์ของมะม่วงหิมพานต์มาแล้ว ใครหลาคนอาจจะยังไม่รู้ว่าผลคล้ายชมพู่นั้นมีประโยชน์มากไม่ต่างจากผลไม้ชนิดอื่นเลย วันนี้เราก้มีเมนูมาแนะนำเช่นเคยค่ะ นั้นก็คือ ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นเองค่ะ หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ทาน แนะนำเลยค่ะเมนูนี้ ต้องมาลองที่ร้าน The Home Ubon

วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2561

ถั่วพูพืชที่มากคุณประโยชน์

พืช

ถั่วพู จัดเป็นพืชในเขตร้อน มีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้แก่ ประเทศไทย ลาว พม่า อินเดีย ฟิลิปปินส์ และปาปัวนิวกินี และในปัจจุบันถั่วพูก็เป็นพืชที่สามารถปลูกได้ในฟลอริดาของอเมริกา
หลายคนคงเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่าลักษณะที่ว่าเป็นพู ๆ นั้นเป็นอย่างไร คำว่า “พู” เป็นคำสมัยก่อน ไม่ค่อยพบกันบ่อยนักในปัจจุบัน ในหนังสืออักขราภิธานศรับท์บอกว่า คำว่าพู หมายถึง “กลีบใหญ่เหมือนลูกทุเรียนที่เป็นกลีบ ๆ มียวงอยู่ข้างใน” ส่วนในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี พ.ศ.๒๕๒๕ อธิบายว่า “พูเป็นชื่อเรียกของสิ่งที่มีลักษณะนูนออกมา เช่น พูทุเรียน” จากความหมายดังกล่าวแสดงว่าคนไทยมองฝักถั่วพูว่ามีพู (4 พู) จึงนำมาตั้งเป็นชื่อของถั่วชนิดนี้ แต่สำหรับชาวต่างชาติจะมองว่ามันมีลักษณะเป็นปีกค่ะหรือเป็นที่มาของชื่อ “Winged bean” นั่นเองค่ะ
ประโยชน์ของถั่วพู
1.ถั่วพูเป็นยอดอาหารเหนือชั้นที่มีความเหนือกว่าพี่น้องตระกูลถั่วทั้งหลาย มีประโยชน์มาก และยังเป็นพืชเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถนำมารับประทานได้แทบทุกส่วนของต้น
2.ถั่วพูเป็นพืชที่มีสารขัดขวางต่ำ จึงช่วยทำให้การดูดซึมของแคลเซียมเป็นไปได้ด้วยดี เมื่อรับประทานถั่วพูแล้วร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้ถึง 39.1-51.9% เลยทีเดียว
3.การรับประทานถั่วพูอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง สามารถช่วยป้องกันและลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม และยังส่งผลดีต่อฮอร์โมนเพศหญิงอีกด้วย เพราะพืชตระกูลถั่วที่กินได้ทั้งฝักทั้งหลายจะมีสารที่มีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โปรติเอส
4. การรับประทานถั่วทั้งชนิดแห้งและสด เช่น ถั่วพู นอกจากจะได้เส้นใยอาหารมากแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วย

สรรพคุณของถั่วพู
1. หัวมีรสชุ่มเย็น ช่วยทำให้ดวงจิตชุ่มชื่น (หัว)
2. รากใช้ประกอบสมุนไพรและน้ำดอกไม้ ใช้เป็นยาแก้โรคหัวใจ (ราก)
3. หัวถั่วพูช่วยแก้ไข้กาฬ (หัว)
4. ช่วยแก้อาการตัวร้อน ลดไข้ในเด็กทารก (ฝักอ่อน)
5. ใบถั่วพูช่วยแก้อาการอาเจียน (ใบ)
6. หัวช่วยแก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ (หัว)
7. ช่วยแก้อาการปวดมวนท้อง (ราก)
8. ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย (ฝักอ่อน)
9. รากถั่วพูช่วยแก้โรคลมพิษกำเริบ ทำให้คลั่งเพ้อ (ราก)

พืช
ทุกคนที่เข้ามาน่าจะได้อ่านประโยชน์และสรรพคุณของถั่วพูไปแล้ว เราก็มีเมนูดีๆมาแนะนำอีกเช่นเคยค่ะ นั้นก็คือ ยำถั่วพูโบราณ เป็นเมนูของร้าน The Home Ubon ที่เป็นการนำถั่วพูมาประยุกต์ทำเป็นยำ เมนูนี้สำหรบคนที่ไม่ชอบกินถั่วพูแบบดิบๆ สดๆ มาลองทานกันนะค่ะ

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2561

ปูม้าเป็นอาหารทะเลที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจริงหรือไม่ ?

อาหารทะเล

เดี๋ยวๆ มาดูคุณค่าทางอาหารของปูม้ากันเถอะ ว่าอาหารทะเลอย่างปูม้ามีประโยชน์ต่อร่างกายจริงหรือไม่ พออ่านแล้วอยากจะออกไปซื้อกินกันเลยทีเดียว เรามาดูประโยชน์ของปูม้ากันก่อนดีกว่า เห็นแบบนี้ ปูม้า เป็นอาหารทะเลชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์เยอะเหมือนกันค่ะ ทั้งอร่อยทั้งมีประโยชน์กันเลยทีเดียว ประโยชน์ของ ปูม้า นั้นมีถึง 5 หัวข้อสารอาหารที่เราควรได้รับ!!
🦀 มีโปรตีนสูงถึงประมาณร้อยละ 15.8
🦀 แคลเซียมประมาณร้อยละ 0.05
🦀 อือหือออ ไขมันต่ำประมาณร้อยละ 0.49
🦀 มีกรดไขมันโอเมก้า -3 เลยนะ และ EPA ที่ร่างกายต้องการ แต่ปูม้านั้นมีเยอะมาก ๆ
🦀 ต้านมะเร็งอีกด้วย คือดีสุดๆ

👉🏻มาอ่านโทษของปูม้ากัน👈🏻
ขอบอกโทษของนางนิดหนึ่ง ปูม้า จัดเป็นอาหารทะเลชนิดหนึ่งที่มีคอเลสเตอรอลสูง แต่ไขมันอิ่มตัวต่ำมาก ปูม้าสามจุด หลายคนส่วนมากที่ไม่เคยลิ้มลองชิมปูม้านั้นก็อาจจะคิดว่ามันไม่อร่อยหรือมันเหม็นคาวแต่ ณ ที่นั้นถ้าจะเหม็นคาวจริง ๆก็คงจะต้องเป็นปูม้าที่ไม่สดค่ะ แล้วนำมาแช่แข็งพอนำ ปูม้าแช่แข็งไปละลายความหวานของปูนั้นก็จะสลายไปกับน้ำที่แช่แข็งที่ติดกับปูม้านั้น แต่ถ้าได้ลิ้มลอง กินปูม้าที่มีความสดนั้นมันชั่งมีรสชาติที่หวานของปูม้าอยู่มาก ๆ
หลนปูม้า
เมื่อทุกคนได้อ่านประโยชน์และโทษของปูม้ามาแล้ว วันนี้เราก็มีเมนูมาแนะนำเช่นเคยค่ะ นั้นก็คือ หลนปูม้า ของทางร้าน The Home Ubon ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารอีสานบรรยาการดี อาหารอร่อย บริการเป็นกันเอง ต้องแวะมานั่งที่ร้านนี้เลยค่ะ มาแล้วอย่าลืมสั่งหลนปูม้ามาลองชิมนะค่ะ ทางร้านได้รังสรรค์เมนูนี้ขึ้นมาเพื่อเอาใจลูกค้าที่ชอบปูกันเลยทีเดียวค่ะ

วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2561

วิธีการเลือกซื้อเนื้อหมูให้เหมาะกับรายการอาหาร

การเลือกเนื้อหมู

วันนี้เรามีวิธีการเลือกซื้อหมูมาฝากคนที่ชอบทานเนื้อหมู แม่ครัวอย่างเราห้ามพลาดในวิธีการเลือกเนื้อหมูแบบเก่าๆแล้วเราจะเลือกหมูยังไงให้เหมาะกับรายการอาหาร อย่าช้าลองมาอ่านเลยว่าการเลือกซื้อหมูที่ถูกวิธีต้องเลือกแบบไหนและเลือกยังไงให้เหมาะกับรายการอาหาร
เนื้อหมู1
การเลือกซื้อเนื้อหมู
1. เลือกเนื้อหมูที่มีสีชมพู ไขมันสีขาว เนื้อละเอียด มีความแน่นตัว กดแล้วไม่บุ๋ม
2. ถ้าเนื้อหมูมีสีแดงเข้ม แสดงว่าเป็นหมูแก่ เนื้อจะเหนียว
3. สังเกตดูว่าเนื้อหมูมีพยาธิหรือไม่ พยาธิจะมีลักษณะคล้ายเม็ด สาคูแทรกอยู่ในเนื้อ ไม่ควรซื้อมารับประทาน ถ้ามีติดมาก็ควร ตัดทิ้ง และเนื้อที่เหลือควรต้มให้นานกว่าปกติ เพื่อทำลายพยาธิ
4. เลือกเนื้อหมูให้เหมาะกับอาหารที่จะทำ เช่น หมูแดง ควรใช้หมูสันใน หรือสันนอกเหมาะสำหรับย่าง หมูที่ทำพะโล้ ควรใช้หมูสามชั้น
5.พิจารณาเนื้อและส่วนที่กินได้ เช่น เนื้อแดงจะดีกว่าเนื้อที่ติด กระดูกมา เช่น ซี่โครง เพราะเนื้อแดงจะมีส่วนที่กินได้มากกว่าโดยราคาไม่ต่างกันมาก
เนื้อหมู3
การเลือกซื้อเนื้อหมูให้เหมาะกับรายการอาหาร...
- หมูเนื้อแดงล้วนๆไม่ติดมัน เหมาะที่จะนำมาอบ ผัด พะแนง หรือทอด
- หมูเนื้อสันในเป็นที่ติดกับสันหลัง ลักษณะเป็นเส้นยาวไม่ติดมันเนื้อส่วนนี้จะนุ่ม เหมาะสำหรับอบหรือทอด
- หมูสามชั้น เลือกสามชั้นที่มีหนังบาง เหมาะกับ เมนูหมูกรอบ หมูย่างชนิดหนังกรอบ หมูหวานและเบคอน
- ขาหน้า ใช้ทำขาหมูพะโล้
- ขาหลัง เหมาะใช้ทำขาหมูยัดไส้ ขาหมูทอด (ขาหมูบาวาเลีย) หรือขาหมูต้มยำ
- การทำแกงจืด ควรใช้หมูสามชั้นมาสับให้ละเอียด มีความนุ่ม รสชาติดี
- ทำหมูแดง ควรใช้เนื้อหมูสันใน เพราะจะมีความนุ่มมากกว่า การใช้เนื้อส่วนอื่นๆ
ควรจะไปตลาดตอนเช้าตรู่ เพื่อจะได้ซื้อ เนื้อสัตว์ที่เพิ่งส่งมาจากโรงฆ่าสัตว์ใหม่ ๆ จะทำให้ได้ของสด สามารถเก็บไว้ได้นานและไม่ควรไปซื้อเนื้อสัตว์ในวันพระ เพราะคุณจะได้เนื้อสัตว์ที่แช่แข็ง ซึ่งทำให้คุณค่าทางอาหารลดลงไปมา
เนื้อหมู

แล้ววันนี้เราก็ยังมีเมนูมาแนะนำด้วย นั้นก็คือ หมูแดดเดียว เป็นเมนูที่เรียกได้ว่าเป็นการถนอมอาหารก็ว่าได้ การนำหมูไปตากแดดหลังจากหมักแล้วนั้น เป็นการถนอมอาหารอีกแบบที่คนเก่าคนแก่พาทำมา แล้วยังลดเวลาในการทอดลงอีก ใครที่ไม่มีเวลาในการทำกินเอง ใครที่กำลังมองหาร้านอาหารที่บรรยากาศดี ร้านอาหารที่บริการเป็นกันเอง ต้องมาที่ร้นนี้เลย The Home Ubon

วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2561

เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์ด้านสุขภาพด้วยเมนูก้อยเห็ด

อาหาร

อาหารที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักอย่าง ก้อยเห็ด ที่มีสารพัด ประโยชน์ของเห็ด และให้คุณค่าทางสุขภาพได้ดีเยี่ยม เป็นยาอายุวัฒนะ ช่วยลดไขมัน มีใยอาหาร เสริมสร้างภูมิต้านทาน รวมไปถึงเสริมสมรรถภาพด้านต่างๆ และในวันนี้เราจะพาพวกคุณไปรู้จักกับประโยชน์ของเห็ดจากเมนู ก้อยเห็ด กันค่ะ ตามมาเลย
1. เห็ดเข็มทอง

เห็ดเข็มทอง

เป็นเห็ดสีขาว หัวเล็กๆ ขึ้นติดกันเป็นแพ รสชาติเหนียวนุ่ม นำมารับประทานแบบสดๆ ใส่กับสลัดผักก็ได้ ถ้าชอบสุกก็นำไปย่าง ผัดหรือลวกแบบสุกี้ ถ้ากินเป็นประจำจะช่วยรักษาโรคตับ กระเพาะ และลำไส้อักเสบเรื้อรัง
2.เห็ดหอม

เห็ดหอม

เป็นยาอายุวัฒนะ เพราะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด อีกทั้งยังเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็งด้วย และมีกรดอะมิโนถึง 21 ชนิด มีวิตามิน บี 1 บี 2 สูง พอๆ กับยีสต์ มีวิตามินดีสูงช่วยบำรุงกระดูกและมีปริมาณโซเดียมต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคไต นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยบำรุงกำลัง บรรเทาอาการไข้หวัด ชาวจีนยกให้เห็ดหอมเป็นอาหารต้นตำรับ “อมตะ”
3. เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า

เห็ดนางฟ้า

เห็ดสามอย่างนี้อยู่ตระกูลเดียวกัน เจริญเติบโตเป็นช่อๆ คล้ายพัด เห็ดนางรมมีสีขาวอมเทา เห็ดนางฟ้ามีสีขาวอมน้ำตาล ขณะที่เห็ดเป๋าฮื้อจะมีสีคล้ำและเนื้อเหนียวหนาและนุ่มอร่อยคล้ายเนื้อสัตว์ มากกว่า เชื่อว่าสามารถป้องกันโรคหวัด ช่วยการไหลเวียนเลือด และ โรคกระเพาะได้
4. เห็ดฟาง

เห็ดฟาง

เป็นเห็ดยอดนิยมของคนไทย นิยมเพาะกันบนกองฟางข้าวชื้นๆ โคนมีสีขาว ส่วนหมวกสีน้ำตาลอมเทา หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ให้วิตามินซีสูง และมีกรดอะมิโนสำคัญอยู่หลายชนิด หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันการติดเชื้อต่างๆ อีกทั้งยังช่วยลดความดันโลหิตและเร่งการสมานแผล
5. เห็ดโคนหรือเห็ดปลวก

เห็ดโคน

ช่วยเจริญอาหาร บำรุงกำลัง แก้บิด แก้คลื่นไส้ อาเจียน แก้ไอ ละลายเสมหะ การทดลองทางเภสัชศาสตร์พบว่าน้ำที่สกัดจากเห็ดโคนสามารถยับยั้งเชื้อโรคบาง ชนิด เช่น เชื้อไทฟอยด์
6. เห็ดเผาะหรือเห็ดถอบ


นิยมกัน คือ แกงเผ็ด เวลาเคี้ยวแล้วให้ความรู้สึกกรอบ มัน เพราะเห็ดเผาะกรอบ ข้างในกลวง เวลาเคี้ยวแล้วดังเผาะทุกๆครั้ง นิยมกินเห็ดระยะที่อ่อนอยู่ โดยนำไปแกงคั่ว และผัด หรือกินสดเป็นผักจิ้มน้ำพริก รักษาบาดแผล ทำให้กระชุ่มกระชวย บำรุงร่างกาย ชูกำลัง แก้ช้ำใน
ก้อยเห็ด2

เป็นยังไงกันบ้างคะ ประโยชน์ของเห็ดเยอะจริงๆ วันนี้เรามีเมนูอาหารอีสานจานพิเศษมาฝากสำหรับคนที่ชอบทานเห็ดนี้เลยคะ “ก้อยเห็ด” เป็นเมนูที่ล้ำไปด้วยคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ คนรักสุขภาพอย่างเราจะพลาดได้ยังไงละคะ ไม่มีเวลาทำกินเอง หาร้านที่ขายอาหารอีสานยาก หรือกำลังมองหาร้านที่มีบรรยากาศความเป็นอีสาน ความเป็นกันเอง วันนี้เราก็มีร้านดีๆที่อุบลมาแนะนำคะ ร้านนี้เลย The Home Ubon ร้านอาหารบรรยากาศดี อาหารอร่อย ด้านการบริการเป็นเลิศ ถ้ามาแล้วอย่าลืมสั่งเมนู ก้อยเห็ดมาทานกันนะคะ

วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2561

ประโยชน์เน้นๆ จากเมนูปูผัดผงกระหรี่

ยังมีอาหารอีกหลายอย่างที่ซ่อนประโยชน์เอาไว้ในตัวเองโดยที่เราก็คาดไม่ถึง อย่างปูนิ่มผัดผงกะหรี่นี่ก็เช่นกันค่ะ ที่นอกจากจะเป็นอาหารจานโปรดของใครหลายคนแล้ว เครื่องเทศสีเหลืองหอมๆ ที่เราใช้เป็นส่วนประกอบยังเปี่ยมไปด้วยสรรพคุณหลากหลายจนต้องยกให้เป็นเมนูดีใกล้ตัว และวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับประโยชน์เน้นๆ จากเมนูปูผัดผงกระหรี่กันคะ ไปดูกันเลย
1. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
ขมิ้นที่เป็นส่วนประกอบหลักในผงกะหรี่มีสรรพคุณลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ สารประกอบอย่างเคอร์คิวมินในขมิ้นสามารถคงระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้พุ่งสูงขึ้นได้
2. กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
เครื่องเทศชนิดต่างๆ ที่ผสมอยู่ในปูนิ่มผัดผงกะหรี่มีทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายเรา โดยเฉพาะขมิ้นที่มีรายงานว่ามีปริมาณวิตามินดีมากพอที่จะช่วยให้ร่างกายจับโปรตีนจากอาหารที่กินเข้าไปได้ดีขึ้น เสริมความแข็งแรงให้กับระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
3. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
เครื่องเทศอย่างลูกซัดก็มีสรรพคุณที่ไม่ธรรมดา ทำให้คอเลสเตอรอลในถุงน้ำดียังลดได้ถึง 75% และไขมันในตับยังลดลงได้ถึง 22% เลยทีเดียวค่ะ
4. ป้องกันโรคอัลไซเมอร์
ผงกะหรี่จัดเป็นเครื่องเทศที่มีสรรพคุณช่วยต่อสู้กับอาการอักเสบ สามารถช่วยขจัดโปรตีนที่มีชื่อว่าเบต้าอะมีลอยด์ (Beta-Amyloid) อันเป็นสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์ได้
5. ช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง
หากเรารับประทานเครื่องเทศอย่างผงกะหรี่ได้ทุกวัน จะช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ด้วยล่ะค่ะ เพราะสารเคอร์คิวมินมีความสามารถในการต่อสู้และป้องกันมะเร็ง โดยจะไปรบกวนการพัฒนาของเซลล์มะเร็ง รวมทั้งยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไปพร้อมๆ กัน
6. ดีท็อกซ์ร่างกาย
คราวนี้เป็นคิวของลูกผักชีในผงกะหรี่กันบ้าง ลูกผักชีมีสรรพคุณขจัดโลหะหนักที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย เช่น สารตะกั่วและสารปรอท ซึ่งเป็นสารที่มีผลต่อการลดระดับฮอร์โมนเพศชาย และลดจำนวนสเปิร์ม อีกทั้งการกำจัดสารตะกั่วออกไปจากร่างกายยังจะช่วยลดภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชั่น (oxidative stress ) หรือภาวะที่อนุมูลอิสระเข้าไปทำลายระบบต่างๆ ภายในเซลล์ร่างกาย หรืออาจทำลายลึกไปในระดับดีเอ็นเอ ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคเสื่อมเรื้อรังชนิดต่างๆ ได้
ประโยชน์เยอะจริงๆนะคะ สำหรับอาหารจารพิเศษกับเมนู “ปูนิ่มผัดผงกระหรี่” มีประโยชน์เยอะแบบนี้คนรักสุขภาพอย่าเราจะพลาดได้ยังไงล่ะคะ สำหรับใครที่ไม่มีเวลาทำเอง หรือกำลังมองหาร้านอาหารที่มีความอบอุ่น บรรยากาศดีๆ มีวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารที่ สด ใหม่และสะอาด วันนี้เราก็มีร้านที่อยากแนะนำทุกคนคะ ร้านนี้เลย The Home Ubon ร้านอาหารบรรยากาศดี อาหารอร่อย บริการประทับใจ ถ้ามาแล้วก็อย่าลืมลองสั่ง “ปูนิ่มผัดผงกระหรี่” มาทานกันนะคะ

จะกินไข่ให้ฉลาด...ต้องฉลาดกินไข่

คนไทย บริโภค ไข่ ต่อคนต่อปีต่อปีน้อยกว่าคนมาเลเซียและสิงคโปร์เพื่อนบ้าน นอกจากเพราะรายได้ที่น้อยกว่า ส่วนหนึ่งมาจากข้อมูลที่ทำให้เกิดความเ...