วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เครื่องแกง...สูตรยาจากก้นครัว


เครื่องเทศและสมุนไพรนอกจากทำให้อาหารไทยมีชื่อเสียงและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ยังมีสรรพคุณทางยาที่แฝงตัวอยู่ ทำให้อาหารไทยมีคุณสมบัติและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเพิ่มขึ้นอีก มิหนำซ้ำเครื่องแกงของไทยเราที่ผสมพืชหรือสมุนไพรมากมายรวมกันนั้น ถ้าหากนำสรรพคุณของพืชสมุนไพรแต่ละชนิดที่ผสมอยู่มาแยกคุณสมบัติทางยา ก็จะเห็นว่าบรรพบุรุษของเราลึกล้ำยิ่งหนัก เพราะปรุงยาเป็นสูตรอาหารให้สืบทอดกันมาเนิ่นนาน เป็นประโยชน์ที่ช่วยรักษาสุขภาพของเรามานานแสนนาน

ลองมาแยกสูตรกันดูดีกว่าว่า ส่วนประกอบของเครื่องแกงแต่ละตัวมีคุณสมบัติอะไรกันบ้าง
เครื่องแกงต้องมีกระเทียม กระเทียมมีสรรพคุณละลายไขมันที่จะไปอุดตันในเส้นเลือด พริกแกงส่วนใหญ่ถูกปรุงในกะทิและเนื้อสัตว์ ใส่กระเทียมเข้าไปก็แก้กันได้พอดี
กระเทียมอย่าเดียวมีฤทธิ์ไม่พอ ต้องใส่มะเขือเปราะลงไปด้วย คนที่ไม่ชอบกินมะเขือเปราะและเคยสงสัยว่าจะต้องใส่ทำไม ขอให้รู้ไว้เถิดว่ามะเขือเปราะช่วยลดโคเรสเตอรอล
ถ้าบางคนเผลอกินแกงปริมาณมากอาจจะท้องอืด ท้องเฟ้อ เพราะอาหารย่อยไม่ทัน แต่ไม่ต้องห่วง เพราะในเครื่องแกง มีทั้งกระชาย กะเพรา ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พืชเหล่านี้เป็นสมุนไพรทีช่วยบรรเทาอาการทรมานที่เกิดขึ้นในช่องท้องได้อย่างดี
ถ้าอาหารไม่ย่อย ท้องผูกเพราะหนักเนื้อ มะขามเปียกของเครื่องแกงส้ม ต้มโคล้ง ก็มีฤทธิ์เป็นยาระบายช่วยได้
คนที่เป็นหวัดยิ่งดีใหญ่ เพราะหอมแดงที่ผสมในเครื่องแกง มีฤทธิ์ช่วยลดอาการคัดจมูกน้ำมูกไหล ถ้าไหนหนำใจ ใช้น้ำมะนาวช่วยอีกแรงก็บรรเทาอาหารเจ็บคอได้ด้วย
ส่วนพริกขี้หนู ตัวเด็ดในเครื่องแกง สาว ๆ ทั้งหลายที่ชอบทานเผ็ดอาจจะไม่รู้ตัวว่ากำลังเสริมสวยให้ผิว เพราะพริกช่วยทำให้ผิวพรรณสวยงาม เพราะไปขับลมขับเหงื่อ ทำให้รูขุมขนสะอาด ทั้งยังมีสารต้านมะเร็งด้วย

เห็นคุณประโยชน์อย่างนี้แล้ว สาว ๆ น่าจะลองหันกลับเข้าครัวดูบ้าง เพราะยาดีที่แท้ล้วนอยู่ก้นครัวเรานี่เอง

วันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2561

งาดำ ธัญพืชที่เป็นที่นิยมของคนรักสุขภาพ


งาดำ ธัญพืชที่เป็นที่นิยมของคนรักสุขภาพในปัจจุบัน งานั้นเป็นพืชล้มลุก ผลเป็นฝัก มีเมล็ดเล็ก ๆ สีขาวหรือสีดำ สามารถเป็นอาหาร เครื่องเทศ และทำน้ำมันได้ งาดำมีคุณค่าทางอาหารและความงามในด้านคุณค่าทางสารอาหาร เพราะมีทั้งโปรตีนกรดอะมิโน แร่ธาตุ และวิตามินที่สำคัญ ๆ มากมาย

คุณค่าทางอาหารของ งาดำ
น้ำมันงา มีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูง ทั้งกรดไขมันโอเมก้า3 กรดไขมันโอเมก้า6 ที่มีคุณสมบัติช่วยลดคอเลสเตอรอล จึงช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ป้องกันโรคหัวใจ ทำให้ระบบหัวใจแข็งแรงรวมทั้งช่วยเยียวยาในโรคข้อเสื่อมได้เช่นกันงายังมีแคลเซียมที่มีมากกว่านมวัวถึง 6 เท่า มีธาตุเหล็กแมกนีเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และทองแดง และยังมากด้วยวิตามินบีชนิดต่าง ๆ ซึ่งดีต่อระบบประสาทช่วยทำให้นอนหลับ ร่างกายกระฉับกระเฉง มีสารบำรุงประสาท และวิตามินอีเป็นตัวแอนติออกซิแดนต์ต้านมะเร็ง

นอกจานี้ในเรื่องความงาม งาดำเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อการชะลอความแก่เพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับผิวได้อย่างน่าทึ่ง เพราะมันมีสารอาหารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระอยู่เป็นจำนวนมากวิตามินเอ บีรวม ช่วยดูแลเรื่องผิวพรรณวิตามินซี ช่วยสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของชั้นผิวหนังแท้ และวิตามินอีในงาดำยังช่วยซ่อมแซมผิวและยังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิว

รับประทาน งาดำ
งาดำ เป็นธัญพืชสารพัดประโยชน์ ช่วยบำรุงหลายส่วนของร่างกาย ทั้งผม ผิวพรรณ เล็บ กระดูก เพิ่มแคลเซียม ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ บำรุงหัวใจให้แข็งแรง มีกรดไขมันดีมาก มีสารอาหารที่ดีต่อร่างกายหลายชนิด แม้คนที่ยังเด็กหรือไม่มีอาการป่วย ก็ควรรับประทานเป็นประจำเพื่อสร้างต้นทุนทางสุขภาพที่ดีให้แก่ร่างกายตัวเอง และสำหรับผู้หญิงที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยทอง งาดำจำเป็นมาก เพราะจะช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุนได้ผลเนื่องจากมีแคลเซียมสูง

การรับประทานงาดำ ควรทานเป็นอาหาร จะดีกว่าการทานเป็นสารสกัด ก่อนรับประทานควรนำมาคั่วให้โดนความร้อนสักนิด ควรคั่วไว้ใช้กะให้ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ แบ่งออกมาคั่วและเก็บไว้ในขวดโหลที่แห้ง เมื่อหมดแล้วค่อยคั่วใหม่ เพื่อให้ได้รับประทานงาคั่วใหม่ๆ หอมๆ ทุกสัปดาห์ เวลาเลือกซื้อควรเลือกซื้อยี่ห้อที่ดีสักหน่อย มีการบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่มิดชิดเรียบร้อย ไม่ควรซื้อที่แบ่งขายตามร้านของของชำ เพราะอาจเสียงกับมูลแมลงสาปหรือแมงอื่นๆ จากการเก่าเก็บภายในร้าน และไม่ควรซื้อแบบที่บดสำเร็จแล้วเนื่องจากอาจมีเชื้อราอะฟลาทอกซินติดมาด้วย

ไม่แนะนำให้รับประทานงาดำโดยโรยในข้าวหรือใส่กับเครื่องดื่ม เพราะวิธีการรับประทานงาดำที่ดีที่สุดคือการเคี้ยว หากเราโรยข้าวหรือใส่เครื่องดื่ม บางครั้งไม่ได้เคี้ยว ร่างกายอาจจะดูดซึมไม่ได้เต็มที่ เข้าไปอย่างไรก็ออกมาอย่างนั้น ดังนั้นต้องเคี้ยว ปกติก็รับประทานอยู่ ใส่กับขนมปังโฮลวีตทุกเช้า วันละ 10 ช้อน แต่ถ้าเป็นวัยรุ่น วันทำงาน ก็อาจจะไม่ต้องมากขนาดนี้ อาจจะประมาณวันละ 3-4 ช้อน หรือเดี๋ยวนี้เห็นเขาทำน้ำเต้าหู้งาดำขาย อันนั้นก็รับประทานได้เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นวัยสูงอายุหน่อยหรือเข้าสู่วัยทองก็เพิ่มปริมาณให้มากหน่อย คือ อาจจะ 6-9 ช้อนก็ได้

วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ข้าวโพดสีม่วง หวาน หอม สวยมีประโยชน์


ธัญพืชมากคุณค่าอย่างข้าวโพดนี้ หลาย ๆ ท่านคงคุ้นเคยกับข้าวโพดสีเหลือง สีขาวทั่วๆ ไปกันอยู่แล้วนะคะแต่วันนี้จะเอาข้าวโพดพันธุ์สีม่วงสวยเหมือนพลอยสวยนี้มานำเสนอกัน

ต้นกำเนิดของข้าวโพดสีม่วงนี้ เมื่อไม่นานมานี้ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดตรัง ประสบความสำเร็จในการพัฒนาและปลูกข้าวโพดเหนียวพันธุ์แฟนซีสีม่วง 111 และพันธุ์สีขาวม่วง 212 ซึ่งมีคุณสมบัติเยี่ยมด้านการต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดโอกาสการเกิดโรคร้ายอื่น ๆ ได้อีกมากมาย ในปัจจุบันทางศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดตรัง กำลังแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดนี้ให้แก่เกษตรกรไปปลูกต่อๆ ไป และคาดว่าจะมีผู้บริโภคให้ความสนใจกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และคาดว่ากำลังจะเป็นที่นิยมมากขึ้นในอนาคตด้วยค่ะ

ข้าวโพดสีม่วงนี้มีรสชาติอร่อย เหนียวนุ่ม ไม่ติดฟัน แถมมีกลิ่นหอม แล้วก็มีคุณค่าทางอาหารสูงมาก ข้าวโพดสีม่วงพันธุ์ข้าวเหนียวนี้ มีสารแอนโทไซยานินส์ (Anthocyanins) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าวิตามินซีหลายเท่า มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ เสริมให้ร่างกายต่อต้านเชื้อโรคและสมานแผล เสริมการทำงานของเม็ดเลือดแดง ชะลอการเกิดไขมันอุดตันในหลอดเลือด ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยในการเสริมสร้าง ให้ร่างกาย ต่อต้านเชื้อโรค และช่วยในการสมานแผล และยังมีสารช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคมะเร็ง ต่างๆ เช่น ชนิดเนื้องอกได้อีกด้วย

โดยที่สารแอนโทไซยานินส์นั้นเป็นสารที่พบในพืชทั้งในดอกและในผลของพืช ที่ให้สีแดง น้ำเงิน หรือม่วง เช่น ดอกอัญชัญ กะหล่ำม่วง องุ่นแดง ชมพู่ม่าเหมี่ยว ฯลฯ เป็นสารที่ละลายในน้ำได้ดี มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ยับยั้งการเกิดออกซิเดชันของลิโปโปรตีน และการตกตะกอนของเกล็ดเลือด ทำให้ แอนโทไซยานินมีบทบาทในการป้องการการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน

ได้ทราบดังนี้แล้วนะคะ คุณ ๆ ลองหาข้าวโพดสีพันธุ์สีม่วง หรือพันธุ์สีม่วงขาวมาลองรับประทานดู เป็นการสนับสนุนเกษตรกรที่พัฒนาสายพันธุ์ขึ้นด้วยประการหนึ่ง และเรายังได้รับประโยชน์จากข้าวโพดชนิดนี้ไปด้วยเต็ม ๆ นะคะ ไม่ต้องกลัวสีม่วงเข้มของข้าวโพดสายพันธุ์นี้นะคะเพราะเป็นสีที่เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ห่วงใยสุขภาพเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากข้าวโพดพันธุ์สีม่วงจะมีคุณค่าทางอาหารดังที่กล่าวมาแล้ว ยังช่วงชะลอความชราด้วยค่ะ

จะกินไข่ให้ฉลาด...ต้องฉลาดกินไข่

คนไทย บริโภค ไข่ ต่อคนต่อปีต่อปีน้อยกว่าคนมาเลเซียและสิงคโปร์เพื่อนบ้าน นอกจากเพราะรายได้ที่น้อยกว่า ส่วนหนึ่งมาจากข้อมูลที่ทำให้เกิดความเ...